การเดินสายไฟกล้องวงจรปิดสำหรับติดตั้งภายในบ้าน

การเดินสายไฟกล้องวงจรปิด เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะไม่เพียงแค่ทำให้ภาพรวมภายในบ้านดูเป็นระเบียบ การเก็บสายไฟไม่ให้เกะกะสายตาเท่านั้น แต่การเดินสายสัญญาณได้อย่างถูกต้อง จะยิ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้การส่งภาพไปยังจอมอนิเตอร์มีความคมชัด ไม่เบลอ หรือเป็นภาพที่ขาดหาย

ดังนั้นก่อนติดตั้ง ไม่ว่าจะใช้บริการจากช่างที่มีประสบการณ์หรือจะติดตั้งด้วยตัวเองก็ตาม ทางที่ดีควรทำความเข้าใจการเดินสายให้ถูกวิธี จะได้คอยสังเกตการณ์ ดูแลการติดตั้งไม่ให้ผิดพลาด จนต้องแกะเข้า ๆ ออก ๆ ในภายหลัง

ทำไมต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเดินสายไฟกล้องวงจรปิด

เนื่องจากล้องวงจรปิดเป็นระบบการทำงานด้วยไฟฟ้า ดังนั้นการเดินสายที่ดีจะต้องมีความปลอดภัย ไม่มีรอยรั่วของกระแสไฟ อีกทั้งกำลังแรงของกระแสไฟฟ้าจะต้องเหมาะสมไปหล่อเลี้ยงระบบได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งจะช่วยให้ทั้งการทำงานบันทึกภาพ และส่งสัญญาณกลับมาในขั้นตอนต่อไปมีความเสถียร

เพราะฉะนั้นการทำความเข้าใจจึงช่วยวางแผนปรับปรุง และหาจุดบกพร่องหลังติดตั้งอุปกรณ์แล้วได้ไม่ยาก กรณีพบปัญหาสัญญาณภาพที่ไม่ดี อีกทั้งความรู้เหล่านี้ยังช่วยให้เจ้าของบ้านติดต่อประสานงานกับช่างให้เข้าใจตรงกันได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องคอยแก้ไขรื้อใหม่กันอยู่บ่อย ๆ ให้เสียเวลา

หลักการเดินสายไฟกล้องวงจรปิดสำหรับเมืองไทย

เนื่องจากในเมืองไทยสมัยใหม่ การเดินสายไฟกล้องวงจรปิดจะใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 15-100 แอมป์เป็นมาตรฐานแบบเฟสเดียว และใช้ไฟฟ้าตามบ้านอยู่ที่ 220 โวลต์ บางกรณีที่เป็นอาคารขนาดใหญ่ขึ้น กระแสไฟฟ้าของตัวกล้องจะเพิ่มเป็น 200-1,000 แอมป์ แบ่งออกเป็นสามเฟสด้วยกัน

การเดินสายภายในบ้านของตัวกล้อง จะต้องทำให้อุปกรณ์ทุกจุดที่เกี่ยวข้องติดตั้งสายลงดิน เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ส่วนสายไฟฟ้าที่นำมาใช้ให้เลือกเป็นแบบ 3 แกน คือสายไฟ, สายนิวทรัล และสายดิน ที่ออกแบบมาให้อยู่ในเส้นเดียวกันทั้งหมด

ส่วนของสายแลนด์ที่ใช้เชื่อมต่อกันระหว่างกล้องและจอมอนิเตอร์ จะมีให้เลือกทั้งแบบสายแลนสำหรับติดตั้งภายในอาคาร และสายแลนติดตั้งภายนอก กรณีที่ต้องเดินสายภายนอก อาจเพิ่มระดับการป้องกันสายไฟ ด้วยการเดินสายผ่านท่อ PVC ให้สายไฟใช้งานได้ยาวนาน ป้องกันแดด ฝน และความชื้นได้มากขึ้น บวกกับความสวยงามดูเป็นระเบียบในตัวด้วย

การเดินสายไฟสำหรับกล้องวงจรปิด ทางที่ดีเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องกระแสไฟฟ้าที่ไม่คงที่ ให้เดินสายไฟที่รองรับแรงดันขนาด 220 โวลต์ บวกกับติดตั้งเครื่องสำรองไฟฟ้าเอาไว้เพื่อส่งกระแสไฟให้กับเครื่องบันทึก ซึ่งจะช่วยให้การจ่ายไฟคงที่ ลดปัญหาอุปกรณ์เสื่อมสภาพจากไฟตก ไฟกระชาก หรือไฟดับ ช่วยให้กล้องทำงานได้ต่อเนื่อง และไม่พังเสียหายตามมาอีกด้วย

ติดตามข่าวสารดี ๆ ได้ที่ https://polytheama.com