“รองก้อง” พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช นำทีมเจ้าหน้าที่บุกสกัดต้นตอ Covid “เจ๊นาง”

พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช

รองก้อง ผู้นำหน่วยปฏิบัติการหนุมานขึ้นชื่อเรื่อง เดินเกมดี ปิดคดีไว

พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในฐานะหัวหน้าส่วนปฏิบัติการที่ 1 ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พร้อมด้วย พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รองผู้บังคับการตำรวจกองปราบปรามและพ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป. ร่วมกันแถลงการณ์ ปิดจ๊อบค้าคนข้ามแดน โดยบุกสกัดจับต้นตอ Covid 19 ที่ระบาดในไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ – การลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายได้อย่างรวดเร็ว

จิรภพ ภูริเดช

พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ร่วมแถลงผลปฏิบัติการ “Stop Covid Cluster”

 

จากที่เราทราบกันดีว่าการแพร่ระบาดของโควิด 19 ในรอบนี้ ส่วนหนึ่งเกิดจากการลักลอบเดินทางข้ามประเทศโดยผิดกฎหมาย ส่งผลให้ไม่ผ่านการตรวจสอบ-วัดอุณหภูมิทำให้มีการเล็ดลอดของผู้ติดเชื้อและเดินทางเข้ามาภายในประเทศ จนเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่

 

ซึ่งกองบังคับการปราบปรามและเจ้าหน้าที่ได้มีการเร่งติดตามจับกุมขบวนการลักลอบนำพาคนเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายมาโดยตลอด มีผลการจับกุมกว่า 200 คดีและจับกุมผู้กระทำผิดได้กว่า 500 ราย (ทั้งผู้ที่ลักลอบหนีและผู้ที่พาหนี) ซึ่งการจับกุมกว่า 200 คดีนั้นถือเป็นส่วนสำคัญในการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโควิด

 

โดยในวันที่ 17 มิ.ย.64 ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ได้แถลงการณ์กวาดล้างขบวนการลักลอบขนคนเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ปฏิบัติการในครั้งนี้ได้ทำการเข้าค้นพื้นที่ทั้งหมด 8 จุดด้วยกัน ดังยนี้ในพื้นที่อำเภออรัญประเทศ จำนวน 2 จุด และอำเภอโคกสูง จำนวนทั้งหมด 6 จุด  

 

ด้านการตรวจค้นจังหวัดสระแก้วก็ไม่ทำให้ผิดหวัง หลังจากที่ พล.ต.ต.จิรภพ หรือ รองก้อง มีการสั่งให้กองบังคับการปราบปราบสืบสวนหาข้อมูลเพิ่ม โดยรองก้องเล่าว่า เมื่อ 3 เดือนก่อน ได้รับแจ้งว่าปัจจุบันพื้นที่รอยต่อติดกับประเทศกัมพูชา แทบพื้นที่ จ.สระแก้ว ยังมีการลักลอบขนคนออกราชอาณาจักรเป็นจำนวนมาก ซึ่งแม้จะใช้เวลานานกว่า 2 เดือน เพื่อแกะรอย รวบรวมพยานหลักฐานตลอดจนสามารถบุกจับ 1 ในตัวแม่ของขบวนการขนค้นเข้าเมืองอย่าง เจ๊นาง หรือ นางดรุณี สีเนา อายุ 48 ปี (หัวหน้าขบวนการ)ได้ในที่สุด พร้อมพวกอีก 3 คน ได้แก่ นายสุเทพ ทิมดี หรือ เทพ อายุ 35 ปี (ผู้ร่วมขบวนการ)  นายนฤนาท กันสำอาง หรือ โจ้ อายุ 28 ปี (ผู้ร่วมขบวนการ) นายศรายุทธ สุขแสวง หรือ แจ้ อายุ 28 ปี (ผู้ร่วมขบวนการ) ตามหมายจับความผิดฐานอั้งยี่ แต่จากการลงพื้นที่ทำให้ทราบว่าจริง ๆ แล้วมีขบวนการลักลอบคนขนถึง 3 ขบวนการด้วยกัน

หนุมานกองปราบ

โดยขบวนการดังกล่าว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เล่าต่อว่า จะมี เจ๊นางทำ หน้าที่สั่งการและมีการนำคนเข้าและออกราชณาจักรโดยผิดกฎหมาย  จะใช้กลุ่มนักเล่นการพนันจะติดต่อไปยังคนพาข้ามประเทศมาทำงานยังด่านชายแดนปอยเปต อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยจ่ายค่าหัว หัวละ   5,000-10,000 บาท เมื่อจ่ายแล้วกลุ่มผู้ต้องหาก็จะมีการนัดสถานที่ขึ้นรถแล้วมารวมกันที่อรัญประเทศ

 

เมื่อรับลูกค้ารอบวันครบแล้วก็พาลูกค้าไปพักที่บ้านใน ต.หนองแวง อ.โคกสูง สระแก้ว (ไม่มีเลขที่) พอตกกลางคืนกลุ่มผู้ต้องหาจะพาลูกค้าออกเดินเท้าผ่านช่องทางธรรมชาติเพื่อไปยังประเทศกัมพูชา (กรณีคนไทยอยากไปฝั่งกัมพูชา)

 

ทางด้านการลักลอบจากฝั่งกัมพูชาเพื่อเข้ามาในประเทศไทยนั้น วิธีการก็จะคล้าย ๆ กัน คือ ทางขบวนการจะแจ้งสถานที่ต่าง ๆ เช่น จุดขึ้นรถของฝั่งประเทศกัมพูชา จากนั้นจะมีคนมารับเพื่อมายังกระท่อมริมชายแดน แล้วก็จะพากันตามช่องทางธรรมชาติโดยการเดินเท้าเข้ามา จากนั้นก็ขับรถไปส่งตามจุดต่าง ๆ  ซึ่งได้มีการออกหมายจับเครือข่ายดังกล่าว 5 คนและนำมาสู่การเข้าตรวจค้นและจับกุม เจ๊นาง หัวหน้าขบวนการได้ ซึ่งยังมีคนที่หลบหนีแต่ก็จะดำเนินตามล่าให้ได้ รองก้องกล่าว

 

ซึ่งการบุกจับดังกล่าวล้วนมีส่วนช่วยในการทลายรังการขนคนลักลอบเข้า – ออกเมือง นอกจากนั้นยังเป็นการสกัดการต้นตอของการนำเชื้อ Covid -19 เข้าเมืองได้อย่างรวดเร็ว

 

หากพูดถึงนายตำรวจหนุ่มไฟแรง ทำงานเร็วและลงพื้นที่ด้วยตัวเอง นาทีนี้จะไม่พูดถึงหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษท่านนี้คงไม่ได้ เพราะหลังจากได้ขึ้นเป็นหัวหน้าหน่วยหนุมานก็ได้ปิดจ๊อบคดีที่ว่ายากลงได้อย่างรวดเร็ว

 เข้าช่วยเหลือประชาชนในเหตุกราดยิงที่เทอร์มินอล 21 โคราช

รองก้อง ผู้นำหน่วยปฏิบัติการหนุมานขึ้นชื่อเรื่อง เดินเกมดี ปิดคดีไวนอกจากปฏิบัติการ “Stop Covid Cluster” ที่หัวหน้าขบวนการถูกบุกจับและปิดฉากลงโดยใช้เวลาไม่นานมากแล้วนั้น  รอง ผบช.ก. หนุ่มไฟแรงยังเป็นหนึ่งในผู้นำทีมฝ่าช่วงเวลาอันตรายหลายคดียกตัวอย่างเช่น คดีกราดยิงเทอร์มินอล 21 จังหวัดนครราชสีมาที่เอาตัวเองเข้าไปอยูในชั้น G เพื่อเข้าควบคุมพื้นที่จนกระทั่งสามารถควบคุมสถานการณ์ได้

 

พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช  ถือเป็นนายตำรวจที่คิดไวแล้วทำได้จริงอีก 1 คนที่น่าจับตามอง

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ https://csd.go.th/10812/